ขายที่ดิน หน้าราชภัฎอุดรฯ (ม.อุดรธานีแห่งใหม่ที่ใหญ่กว่า)

ที่ดินมีสองแปลง

แปลงที่หนึ่ง มีเนื้อที่ ๑ ไร่ ติดถนนสองด้าน(ที่ดินตั้งอยู่บนมุมถนน) อยู่ห่างจากประตูหน้า ม. เพียง ๓๐๐ เมตร ใช้เวลาในการเดินจากหน้า ม. ไม่ถึงห้านาที (ที่ดินตั้งอยู่ตรงกับประตูใหญ่หน้า ม.ราชภัฎ การสัญจรจากหน้า ม. ไปยังที่ดิน ใช้ถนนเส้นหลักที่ออกจากประตู ม. )

แปลงที่สอง ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามถนนกันกับเเปลงแรก มีเนื้อที่ ๔ ไร่ สามารถทำอะไรได้มากกว่าหอพักมากมาย

ราคาขาย ไร่ละ 1,500,000.- บาท หนึ่งล้านห้าแสนบาทถ้วน (ที่ดินมีโฉนด)


หมายเหตุ

ที่ดินโดยรอบของทั้งสองแปลงนี้ถูกจับจองทั้งหมดแล้ว และมีการถมเคลียพื้นที่กันไปแล้วมากกล่าวครึ่ง และตอนนี้มีหอพักใหม่ที่เกิดขึ้นในหมู่บ้านสามพร้าวเป็นจำนวนมากการค้าขายค่อนข้างคึกคัก ทั้งที่ ม. ยังไม่สมบูรณ์ แต่หอพักหน้า ม. ยังไม่มีเนื่องจากเอกชนยังไม่มีการเดินไฟฟ้าออกไป หากมีการสร้างหอพักและการค้าขายหน้า ม. เมื่อไหร่หอพักและการค้าในหมู่บ้านก็ต้องย้ายออกตามไปด้วย เนื่องจากหมู่บ้านอยู่ห่าง ม. มากกว่า ๓ กิโล เมื่อ ม. ใหม่เสร็จสมบูรณ์ประกอบกับมีการสร้างโรงพยาบาลศูนย์แห่งใหม่ตามแผนของจังหวัดที่ได้ประกาศไปแล้วและรัฐบาลเห้นชอบแล้วนั้น ที่ดินในโซนนี้ในฐานะเมืองใหม่จึงน่าจะเติบโตไปในทางก้าวกระโดดได้ ราคาที่่ดินตอนนี้จึงถือว่ายังไม่สูง เมื่อเทียบกับ ม.สารคาม และ ม.ขอนแก่น ซึ่งมีราคาขายที่ดินสูงเกินไร่ละสิบล้านบาทไปแล้ว ทั้งที่เมื่อสร้างหอพักก็ได้ค่าเช่าต่อห้องในราคาเช่าที่ไม่ต่างกัน ยิ่งเมื่อเทียบศักยภาพทางธุรกิจทั้งในปัจจุบันและอนาคตแล้ว อุดรฯ ย่อมน่าลงทุนกว่า มหาสารคามด้วยประการทั้งปวง ณ ปัจจุบันที่ยังไม่เปิดอาเซียน ราชถัฎอุดรฯ ก็รับนักศึกษาลาวและเวียดนามมากกว่าพันเข้าไปแล้ว นี่คืออีกสาเหตุที่ห้างฯ ดังทั้งใหญ่น้อยทำไม่ถึงแห่มาที่อุดรฯ ราคาที่ดินในตอนนี้เมือเทียบกับการซื้อที่ในเมืองสร้างหอพัก ที่ดินราชภัฎจึงจะสามารถคืนทุึนได้เร็วกว่าและเห็นกำไรมากกว่าแน่นอน(ที่ดินมีโฉนดใกล้ ม.ราชภัฎสามพร้าวที่ราคาต่ำกว่านี้รับรองได้ว่าต้องอยู่ห่าง ม. ไม่ต่ำกว่า 1 กิโลเมตรเป็นอย่างน้อย) การลงทุนมีความเสี่ยงผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลด้วยตนเองครับ สำหรับปี ๕๖ ราคาที่ดินในโซนนี้ย่อมขยับเพิ่มขึ้นอีกพอสมควรอย่างแน่นอน เนื่องจากสิ่งปลูกสร้างถาวรในโครงการใหญ่ๆ ของมหาวิทยาลัยเริ่มชัดเจนมากขึ้น